สำหรับปัญหาปากแห้งไม่ได้เกิดเฉพาะแค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดปัญหาปากแห้งได้ทุกฤดูกาล เรื่องจากปากนั้นไม่ได้รับการดูแลอย่างเพียงพอ แม้ว่าปากนั้นจะเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้กับผิวหน้ามากที่สุด แต่บางครั้งก็ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เมื่อถูกละเลยจึงทำให้เกิดทั้งปัญหาปากแห้ง ลอก และแตกได้ แม้ว่าจะใช้ลิปมันก็ไม่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างเต็มที่
สาเหตุที่ 3 การป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร
สำหรับสาเหตุที่ 3 เกี่ยวข้องกับโรคขาดสารอาหาร นอกจากปัญหาปากแห้งจะสามารถบอกว่าริมฝีปากขาดความชุ่มชื้นแล้วยังสามารถบอกว่าคุณกำลังเป็นโรคขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงร่างกายหรือไม่ เนื่องจากโรคขาดสารอาหารจะมีลักษณะอาการ คือ สภาวะที่ร่างกายขาดน้ำและอาหาร ซึ่งการที่ร่างกายขาดน้ำจะทำให้ปากขาดความชุ่มชื้นและจะทำให้ปากแห้ง ส่วนการขาดสารอาหารร่างกายจะมีลักษณะ คือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฟันผุ กระดูกเปราะบาง ทำให้ร่างกายมีความแคระแกน เพราะฉะนั้นควรจะเริ่มสังเกตริมฝีปากของตนเองด้วย
สาเหตุที่ 4 การดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอ
สำหรับสาเหตุที่ 4 เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดื่มน้ำ ถ้าหากคุณเป็นคนที่ดื่มน้ำเปล่าน้อย หรือหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำในปริมาณมาก นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาปากแห้งแล้ว ยังทำให้ร่างกายได้รับปลกระทบเช่นเดียวกัน อาทิเช่น เกิดอาการท้องผูก วิงเวียนศีรษะ เป็นต้น ถ้าหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาหรือสภาวะการขาดน้ำ ควรจะเริ่มดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หรืออย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันเพื่อให้ร่างกายได้รับประมาณน้ำอย่างเพียงพอ
สาเหตุที่ 5 การแพ้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับปาก
สำหรับสาเหตุที่ 5 เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อการบำรุง เพื่อการเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อให้ริมฝีปากได้รับการปกป้องและดูแล อาทิเช่น ลิปมัน ลิปบาล์ม หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ในการบำรุงปากโดยเฉพาะ เป็นต้น แต่ในการทำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็จะต้องมีการผสมกับส่วนผสมทั้งที่เป็นธรรมชาติและเป็นสารเคมี ทำให้บางคนอาจจะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ เมื่อเกิดอาการเช่นนี้จะทำให้ริมปีกปากเกิดความแห้งตามมา เพราะฉะนั้นเมื่อเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับริมฝีปากควรจะสังเกตเสมอว่าริมฝีปากของตนเองเกิดปัญหาปากแห้งหรือไม่ ถ้าหากเกิดปัญหาจะต้องหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันทีและควรไปพบแพทย์
วิธีดูแลริมฝีปากเบื้องต้น
สำหรับคนที่กำลังเกิดปัญหาปากแห้ง สามารถศึกษาวิธีการดูแลริมฝีกปากเบื้องต้นได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาปากแห้ง
1. หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีกปาก ถ้าหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาปากแห้ง แตก ลอก ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการเลียปากเพราะจะทำให้ความชุ่มชื้นที่สะสมอยู่บริเวณริมฝีปากหายไป วิธีการที่ถูกต้องคือการทาลิปมันหรือลิปบาล์มเท่านั้น และห้ามเลียริมฝีปากเมื่อทาลิปบาล์มแล้ว
2. หาผ้าคลุมหรือสิ่งที่สามารถป้องกันไม่ให้ปากสัมผัสกับอาหารมากเกินไป เมื่อต้องอยู่ในสภาพของอากาศที่เลวร้ายไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนจัด หรืออากาศเย็นจัดก็จะต้องหาสิ่งที่สามารถช่วยปกปิดปากได้ เพื่อไม่ให้ปากแห้งมากเกินไป
3. ห้ามดึงแผ่นผิวหนังที่ลอกออกมา ปัญหาปากแห้ง นอกจากจะทำให้ปากแห้งแล้วยังทำให้ปากลอกเป็นแผ่นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าหากเกิดอาการปากแห้งและลอกไม่ควรดึงผิวหนังที่ริมฝีปากที่ลอกออกมาจากริมฝีปากเด็ดขาด เพราะจะเป็นการทำร้ายริมฝีปากอย่างรุนแรงและจะทำให้ผิวหนังที่คอยปกป้องริมฝีปากหลุดออกไป อีกทั้งยังทำให้ความชุ่มชื้นหลุดออกไปด้วย
4. ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วิธีการรักษาปากแห้งได้ง่ายที่สุด ก็คือการดื่มน้ำให้มีปริมาณที่พอกับที่ร่างกาย เพื่อที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะได้นำน้ำที่ได้รับไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ร่วมไปถึงริมฝีปากด้วย เมื่อริมฝีปากได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอก็จะลดปัญหาปากแห้งได้
5. สำหรับคนที่มีปัญหาปากแห้งควรจะใช้ลิปบาล์มเป็นประจำ โดยเฉพาะลิบบาล์มที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมผสมกับขี้ผึ้งจะทำให้ริมฝีปากได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ หรือถ้าหากเป็นคนที่ชอบทาลิปสติกควรจะเลือกลิปที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากหรือลิปสติกที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นจะดีที่สุด และควรจะทดลองใช้ก่อนเพื่อดูว่าตนเองแพ้ลิปสติกหรือไม่เพื่อความปลอดภัยและไม่ทำให้ปากแห้ง
จะเห็นได้ว่าปัญหาปากแห้งนั้น สามารถลดความมั่นใจของคนที่กำลังพบเจอกับปัญหานี้ได้ นอกจากนี้การมีปากแห้ง แตก และลอกอาจจะบ่งบอกถึงโรคหรือสภาวะของร่างกายที่ขาดน้ำได้ เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาปากแห้งคือการขาดความชุมชื้น เพราะฉะนั้นจะต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากเป็นประจำ ทั้งการทาลิปบาล์มหรือลิปสติก หรือจะเลือกดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วต่อวัน
#Giftsis #ปัญหาปากแห้ง#ปากแห้ง #ผู้หญิง
ขอขอบคุณภาพจาก
- pobpad.com
